2 ถ้วยพอเหรอ ? แมนยู ใช้เงินเกือบสามหมื่นล้านบาทยุค เอริค เทน ฮาก


อนาคตของ เอริค เทน ฮาก กับ แมนยู เริ่มอันตรายมากยิ่งขึ้น หลังแพ้ ลิเวอร์พูล ยับในเกม “แดงเดือด” คาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ฟอร์มการเล่นของ “ผีแดง” ในแมตช์ดังกล่าวค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะพวกเขาเป็นรอง “หงส์แดง” แทบทุกกระบวนท่า และสกอร์เกือบขาด ถ้าหากพวกเขาเน้นจบสกอร์ให้เด็ดขาดมากกว่านี้

ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้เก้าอี้กุนซือของ เทน ฮาก สั่นคลอนอย่างหนัก เพราะตอนนี้ แมนฯ ยูฯ พ่ายไปแล้ว 2 และชนะแค่เกมเดียว ทำให้พวกเขามีแค่ 3 แต้มหล่นไปอยู่อันดับ 14

แม้ว่า เทน ฮาก มักจะอ้างเรื่องการคว้า 2 แชมป์ (คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ) ในรอบ 2 ปีที่เข้ามากุมบังเหียน แต่เมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่สโมสรทุ่มในการเสริมทัพ ความสำเร็จดังกล่าวช่างไม่คุ้มค่าเลย

ยิ่งในช่วงตลาดซัมเมอร์นี้ บอร์ดบริหารชุดใหม่นำโดย เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ พร้อมทุ่มเงินเอาใจ กุนซือชาวดัตช์ อย่างเต็มที่ ในการทุ่มเงินเสริมทัพตามที่เจ้าตัวต้องการ ไม่ว่าจะเป็น มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์, โจชัว เซิร์กซี, เลนี่ โยโร่, นุสแซร์ มาซราวี และ มานูเอล อูการ์เต้

ก่อนหน้านี้ เทน ฮาก ได้รับการหนุนหลังจากบอร์ดบริหารตั้งแต่เข้ามากุมบังเหียนเมื่อปี 2022 ด้วยการซื้อนักเตะที่อยากได้ และส่วนใหญ่มาจากลีกดัตช์ โดยเฉพาะจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งแต่ละคนก็ทำผลงานไม่ค่อยคุ้มกับค่าตัวเท่าไหร่นัก

ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าๆ ที่ เทน ฮาก เข้ามากุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้เงินไปถึง 616 ล้านปอนด์ (ราว 28,952 ล้านบาท) แต่ผลงานและความสำเร็จยังไม่ตอบโจทย์แฟนบอลและบอร์ดบริหาร

แน่นอนว่าฤดูกาล 2024/2025 เพิ่งจะเปิดฉากแค่ 3 เกม และ เทน ฮาก ยังมีเวลาให้แก้ไข กระนั้นหลังพักเบรกทีมชาติถ้าผลงานไม่กระเตื้อง เจ้าตัวอยู่ไม่ถึงช่วงฉลองปีใหม่ที่ “โรงละครแห่งความฝัน” ก็ได้

การเซ็นสัญญานักเตะแมนยูในยุค เอริค เทน ฮาก

ชื่อ-สโมสร-ค่าตัว

-อันโตนี่ จากอาแจ็กซ์ ค่าตัว 85.4 ล้านปอนด์ (ราว 4,013 ล้านบาท)

-ราสมุส ฮอยลุนด์ จากอตาลันต้า ค่าตัว 72 ล้านปอนด์ (ราว 3,384 ล้านบาท)

-กาเซมีโร่ จากเรอัล มาดริด ค่าตัว 70 ล้านปอนด์ (ราว 3,290 ล้านบาท)

-เมสัน เมาท์ จากเชลซี ค่าตัว 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,820 ล้านบาท)

-เลนี่ โยโร่ จากลีลล์ ค่าตัว 58.9 ล้านปอนด์ (ราว 2,768 ล้านบาท)

-ลิซานโดร มาร์ติเนซ จากอาแจ็กซ์ ค่าตัว 56.7 ล้านปอนด์ (ราว 2,664 ล้านบาท)

-มานูเอล อูการ์เต้ จากเปแอสเช ค่าตัว 50.7 ล้านปอนด์ (ราว 2,382 ล้านบาท)

-อ็องเดร โอนาน่า จากอินเตอร์ มิลาน ค่าตัว 47.2 ล้านปอนด์ (ราว 2,218 ล้านบาท)

-มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ จากบาเยิร์น มิวนิค ค่าตัว 42.7 ล้านปอนด์ (ราว 2,006 ล้านบาท)

-โจชัว เซิร์กซี จากโบโลญญ่า ค่าตัว 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,410 ล้านบาท)

-นุสแซร์ มาซราวี จากบาเยิร์น มิวนิค ค่าตัว 17.1 ล้านปอนด์ (ราว 803 ล้านบาท)


ไทเรลล์ มาลาเซีย จากเฟเยนูร์ด ค่าตัว 14.7 ล้านปอนด์ (ราว 690 ล้านบาท)

-คริสเตียน เอริคเซ่น จากเบรนท์ฟอร์ด ค่าตัว ฟรี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

//