ส.บอลแบน 3 สตาฟฟ์ 1 ปี-พัก 2 แข้งช่วยทีมชาติครึ่งปี เซ่นเหตุวิวาทซีเกมส์

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งมี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธาน ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนสอบสวน กรณีเหตุวิวาท ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 นัดชิงชนะเลิศ ระหว่างไทย-อินโดนีเซีย เมื่อ 16 พ.ค. 66 ที่กัมพูชา และมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ต้องกันว่า
นายประสบโชค โชคเหมาะ ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู, นายมายีด หมัดอะด้ำ เจ้าหน้าที่ทีม, นายภัทราวุธ วงษ์ศรีเผือก เจ้าหน้าที่ทีม ซึ่งโดยตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบนอกจากจะทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนนักกีฬาฟุตบอล หรือ ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามความรับผิดชอบในทีมฟุตบอลแล้ว จะต้องมีหน้าที่ ควบคุมกำกับดูแล พฤติกรรมความประพฤติของนักกีฬาฟุตบอลด้วย
กลับมีพฤติการณ์ที่ส่อว่าจะประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าร่วมในการกระทำผิดเสียเองเช่นกรณีนี้ จึงไม่มีเหตุอันควรปรานี
อาศัยอำนาจตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยจรรยา สำหรับนักกีฬาอาชีพ และบุคลากรกีฬาอาชีพ ในความดูแลของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พ.ศ. 2560 เห็นควรลงโทษ “พักการปฏิบัติหน้าที่ในนามทีมชาติไทยทุกชุด เป็นเวลา 1 ปี”
ส่วนนายโสภณวิชญ์ รักญาติ นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ในตำแหน่งผู้รักษาประตู และ นายธีรภักดิ์ เปรื่องนา ผู้เล่นสำรอง ที่ร่วมกระทำผิดด้วยนั้น นอกจากจะตกอยู่ในสภาวะกดดันด้านจิตใจ ด้วยเหตุมุ่งไปที่ผลการแข่งขัน และมีเหตุการณ์ยั่วยุกันไปมาจนทำให้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้น ภายหลังเกิดเหตุรู้สำนึกในการกระทำผิดและออกมาขอโทษต่อสาธารณะ อีกทั้งสองคนยังอยู่ในช่วงเยาว์วัย จึงมีเหตุอันควรปรานี “พักการปฏิบัติหน้าที่ (เข้าร่วมแข่งขัน) ในนามทีมชาติไทยทุกชุด เป็นเวลา 6 เดือน”