เจ้าของนิวคาสเซิ่ลขู่ฟ้องพรีเมียร์ลีก ขวางขายทีมให้เจ้าชายซาอุฯ

ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และบอร์ดบริหารของ “สาลิกาดง” ว่าจ้าง แบล็คสโตน แชมเบอร์ส บริษัทด้านทนายชั้นนำเพื่อให้มาช่วยสู้คดีกับทางฝ่ายจัดการแข่งขันของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากอ้างว่าฝ่ายจัดการแข่งขันของ พรีเมียร์ลีก ขัดขวางการขายทีมของพวกเขาแบบไม่เป็นธรรม
ช่วงหลายเดือนก่อน แอชลี่ย์ ทำท่าว่าจะได้ขาย นิวคาสเซิ่ล แล้ว หลังจากที่กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียซึ่งนำโดยเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย พยายามที่จะเข้าเทคโอเวอร์ทีม โดยพวกเขาพร้อมให้ข้อเสนอเป็นมูลค่าสูงถึง 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,300 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายกลุ่มทุนดังกล่าวถอนตัวไปเองภายหลังมันยืดเยื้อนานเกินไป โดยสาเหตุที่ทำให้มันยืดเยื้อมาจากปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะบรรดาข่าวแง่ลบเกี่ยวกับทางซาอุดิอาระเบีย อย่างเช่น ข่าวลือว่ารัฐบาลของที่นั่นละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดศึก พรีเมียร์ลีก และการที่มกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน ทรงโดนกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการตายของนักข่าว เป็นต้น ถึงกระนั้น แอชลี่ย์ ก็อยากทำให้ดีลนี้กลับมาอีกครั้ง โดยเขาเชื่อว่าการดำเนินการทางกฎหมายอาจจะช่วยทำให้เกิดเรื่องนั้นได้
แถลงการณ์ของ แบล็คสโตน แชมเบอร์ส เผยว่า “ชาฮีด ฟาติม่า และ นิค เดอ มาร์โก กำลังว่าความให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เอฟซี และ ไมค์ แอชลี่ย์ ในการสู้คดีกับ พรีเมียร์ลีก เกี่ยวกับการโดนปฏิเสธข้อเสนอการเทคโอเวอร์ตจาก พีซีพี แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส, รูเบน บราเธอร์ส และ พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ ออฟ ซาอุดิอาระเบีย (พีไอเอฟ) ภายหลังจากที่ พรีเมียร์ลีก ได้มีการตรวจสอบไปแล้ว”
ที่จริงสัปดาห์ก่อน นิวคาสเซิ่ล ก็แถลงการณ์ในเชิงกล่าวหา ริชาร์ด มาสเตอร์ส ประธานบริหาร พรีเมียร์ลีก ไปแล้วว่าดำเนินมาตรการไม่เหมาะสมในระหว่างกระบวนการตรวจสอบ ขณะที่ พรีเมยร์ลีก สวนไปว่าพวกเขาไม่ได้ขัดขวางการเทคโอเวอร์เลย และยังรอข้อมูลที่เหมาะสมจากคนที่สนใจจะซื้อทีมอยู่