เปิดสถานการณ์ทีมชาติไทย หลังการันตีเข้ารอบ 16 ทีมเอเชียนคัพ


ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ “มาซาทาดะ อิชิอิ” โดยมี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม ที่เดินหน้าผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างเป็นทางการ ในศึกฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ โดยเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของขุนพลลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่อจากปี 1972 (มี 6 ทีม) และปี 2019 (มี 24 ทีม) ที่เข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ

โดยทัพ “ช้างศึก” จะลงสนามในเกมนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ ดวลกับ ซาอุดิอาระเบีย ทีมอันดับ 56 ของโลก ในวันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2567 ที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม เวลา 22.00 น. โดยมีช่อง PPTV HD หมายเลข 36 และช่อง T Sport 7 ยิงสดให้แฟนบอลได้รับชมด้วย

ทั้งนี้ ผลการแข่งขันในเกมดังกล่าวจะเป็นตัวชี้วัดว่า ทีมชาติไทย จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ไปเจอกับใครดังนี้

– กรณี ไทย ชนะ ซาอุดิอาระเบีย : ไทย จะมีเพิ่มเป็น 7 แต้ม จาก 3 นัด เข้ารอบในฐานะ “แชมป์” กลุ่ม เอฟ ไปพบกับรองแชมป์กลุ่ม อี (เกาหลีใต้ หรือ จอร์แดน หรือ บาห์เรน) และแข่งขันในวันอังคารที่ 30 มกราคม 2567 เวลาไทย 23.00 น.

– กรณี ไทย เสมอ ซาอุดิอาระเบีย : ไทย จะมีเพิ่มเป็น 5 แต้ม จาก 3 นัด เข้ารอบในฐานะ “รองแชมป์” กลุ่ม เอฟ ไปพบกับรองแชมป์กลุ่ม บี คือ อุซเบกิสถาน ซึ่งแข่งขันในวันอังคารที่ 30 มกราคม 2567 เวลาไทย 23.00 น.

– กรณี ไทย แพ้ ซาอุดิอาระเบีย : ไทย จะมี 4 แต้มเท่าเดิมจาก 3 นัด และผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง โอมาน ที่หากเอาชนะ คีร์กิซสถาน ได้ จะทำให้ทีมชาติไทยต้องพบกับแชมป์กลุ่ม ดี คือ อิรัก โดยแข่งขันในวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2567 เวลาไทย 18.30 น.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

//